Tag: อาหาร

เคล็ดลับการทำ ข้าวคลุกกะปิให้อร่อย

ข้าวคลุกกะปิหรือที่เรียกว่า “ข้าวบากุง” ในอาหารฟิลิปปินส์เป็นอาหารที่มีรสชาติและเผ็ดร้อน เคล็ดลับในการทำมีดังนี้

1.เลือกข้าวที่เหมาะสม: ใช้ข้าวเมล็ดยาว เช่น ดอกมะลิหรือบาสมาติเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด พันธุ์เหล่านี้มีเนื้อสัมผัสที่ดีและมีกลิ่นหอมที่เข้ากันกับรสชาติของกะปิ

2.หุงข้าวอย่างเหมาะสม: หุงข้าวตามวิธีที่คุณต้องการ (เตาตั้งพื้น หม้อหุงข้าว ฯลฯ) และให้แน่ใจว่าข้าวมีความฟูและไม่เหนียวจนเกินไป พักให้เย็นเล็กน้อยก่อนนำไปผสมกับกะปิ

3.เลือกใช้กะปิคุณภาพสูง: ใช้กะปิคุณภาพดีเพื่อให้ได้รสชาติที่ดีที่สุด คุณสามารถหากะปิได้ที่ร้านขายของชำในเอเชียหรือทางออนไลน์ เลือกยี่ห้อที่มีรสชาติสมดุลและไม่เค็มจนเกินไป

4.ปรับรสชาติ: กะปิอาจมีความเค็มต่างกัน ดังนั้นควรชิมก่อนคลุกกับข้าว ถ้ามันเค็มเกินไป คุณสามารถปรับสมดุลด้วยน้ำตาลเล็กน้อย หรือบีบมะนาวหรือน้ำมะนาวได้ คุณสามารถเพิ่มพริกสดสับเพื่อให้ความร้อนได้หากต้องการ

5.เพิ่มรสชาติด้วยอะโรเมติกส์: ผัดกระเทียมและหัวหอมสับในน้ำมันจนมีกลิ่นหอมก่อนใส่กะปิ สิ่งนี้จะเพิ่มความลึกของรสชาติให้กับจาน

6.เพิ่มพื้นผิวและสี: ผสมมะเขือเทศหั่นเต๋า มะม่วงเขียวหั่นบาง ๆ หรือหัวหอมสับเพื่อเพิ่มเนื้อสัมผัสและความสด คุณสามารถเพิ่มไข่คนหรือกุ้งปรุงสุกเพื่อเป็นโปรตีนก็ได้

7.ตกแต่งอย่างสร้างสรรค์: โรยผักชีสับ งาคั่ว หรือหอมแดงทอดบนข้าวเพื่อเพิ่มรสชาติและดึงดูดสายตา

8.เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียง: ข้าวบากุงมักเสิร์ฟพร้อมเนื้อย่างหรือทอด อาหารทะเล หรือผัก จับคู่กับโปรตีนที่คุณชื่นชอบและแตงกวาสดหรือมะเขือเทศฝานเป็นชิ้นเพื่อมื้ออาหารที่สมดุล

9.การทดลองกับรูปแบบต่างๆ: อย่ากลัวที่จะทดลองกับส่วนผสมและรสชาติที่แตกต่างกันเพื่อให้เหมาะกับรสนิยมของคุณ คุณสามารถเพิ่มส่วนผสมอื่นๆ เช่น ชิ้นสับปะรด พริกหยวก หรือมะละกอเขียวฉีกเพื่อเพิ่มความเป็นเอกลักษณ์

10.รับประทานอย่างพอเหมาะ: กะปิมีฤทธิ์ค่อนข้างแรง ดังนั้นให้รับประทานข้าวบากุ้งในปริมาณที่พอเหมาะ เป็นเมนูที่อร่อยและรสชาติดี แต่หากมากเกินไปก็อาจล้นหลามได้

หิวระหว่างวัน แต่ไม่กล้ากินเพราะกลัวอ้วน ต้องฟังทางนี้

เคยไหม? เวลาหิวก็อยากจะทานอะไรไปหมด จนเผลอสั่งอาหารมาเต็มโต๊ะและไม่สามารถกินหมด นั้นเพราะเราปล่อยให้ความหิวมาครอบงำ ฉะนั้นนอกจากในเรื่องของสติควบคุมการกินแล้ว คุณยังต้องศึกษาช่วงเวลา ควรเช็คดูด้วยว่าตอนไหนควรทานอะไร ปริมาณมากน้อยแค่ไหน หากทำได้รับรองว่ากินอย่างไรก็ไม่อ้วนและไม่หิวแน่นอน ไปดูกันเลยว่าเมนูของว่างมีอะไรได้บ้าง

1.คุกกี้ธัญพืช เป็นขนมทานเล่นรสชาติดีและอุดมไฟเบอร์ช่วยเรื่องระบบขับถ่าย คาร์โบไฮเดรตชนิดดี สามารถทานได้ที่ 2 ชิ้นเล็ก ๆ เมื่อดูเรื่องน้ำหนักจะต้องไม่เกิน 17 กรัม จะช่วยให้พลังงาน 90 กิโลแคลอรี คลายความหิว

2.แคร็กเกอร์โฮลวีท เป็นของทานเล่นแม้จะมีขนาดเล็กแต่ช่วยทำให้ความหิวลดลง ซึ่งควรทานในปริมาณเพียง 4 แผ่นเล็ก นอกจากนี้ยังเป็นคาร์โบไฮเดรตที่ลดความอยากในอาหารชนิดอื่น ๆ ได้อีกด้วย เพราะในแคร็กเกอร์ให้พลังงานเพียง 80 กิโลแคลอรีเท่านั้น

3.ขนมปังโฮลวีท เป็นขนมปังที่คนรักสุขภาพแนะนำให้ทานเล่นหากรู้สึกหิว แต่ต้องไม่เกิน 1 แผ่นและทานเพียว ๆ ไม่มีอย่างอื่นมาทานคู่ อย่างแยม เนย นม ไม่ควรอย่างยิ่ง 

4.เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เป็นทั้งของทานเล่นและกับแกล้มที่มีประโยชน์มากทีเดียว อาทิ วิตามิน แร่ธาตุ ไฟเบอร์ โดยเฉพาะในคนที่กำลังลดน้ำหนักสามารถทานเล่นได้เมื่อหิว ให้พลังงาน 100 กิโลแคลอรี อย่างไรก็ตามไม่ควรทานเกิน 12 เม็ด 

5.ถั่วพิสตาชิโอ 25 เม็ด ถั่วลิสง 17 เม็ด และถั่วอัลมอนด์ 15 เม็ด เป็นถั่วชนิดที่ดีต่อสุขภาพ อุดมไปด้วยสารไฟโตสเตอรอล ส่งผลดีในเรื่องของการดูดซึมคอเลสเตอรอลในลำไส้  เพราะมีไฟเบอร์ช่วยในเรื่องขับถ่ายและแคโรทีนอยด์ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ ในการทานแต่ละครั้ง 25 เม็ด จะให้พลังงานเพียง 100 กิโลแคลอรีเท่านั้นเอง

6.ส้ม ในการทานแนะนำว่าควรเลือกขนาดกลางเพราะจะให้พลังานประมาณ 60 กิโลแคลอรีเทียบเท่ากับกล้วยน้ำว้า การทานควรทานเนื้อทั้งหมด ไม่ควรปลอกเอาใยต่าง ๆ ออกหมด เพราะในนั้นมีไฟเบอร์ส่งผลดีต่อระบบขับถ่าย ทานแล้วสดชื่น มีวิตามินซีที่ดีต่อระบบภูมิคุ้มกัน เหมาะกับการทานเพื่อลดน้ำหนักและอิ่มท้องได้เช่นกัน

7.แอปเปิล ก่อนทานแนะนำให้เลือกขนาดกลางเปลือก ในแอปเปิล 1 จะให้พลังงาน 70 กิโลแคลอรี ไม่เพียงรสชาติหวานและเปรี้ยวจะทำให้สดชื่นเท่านั้น ยังทำให้อิ่มท้องมาก ๆ ด้วย เพราะในนั้นมีไฟเบอร์เพกติน นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์มากมาย อาทิ วิตามิน กรดอะมิโนและแร่ธาตุสำคัญ รู้แบบนี้แล้วต้องเลือกซื้อมาติดตู้เย็นไว้เลย

ฟาสต์ฟู้ด กินแล้วไม่อ้วน ด้วย 6 ทริกเด็ด

อาหารฟาสต์ฟู้ดหรือของทอดมักเป็นอุปสรรคสำหรับคนที่กำลังควบคุมน้ำหนักในช่วงแรก เพราะเคยชินกับการกินซึ่งในอาหารประเภทนี้มีไขมันและคอเรสเตอรอลสูง สารอาหารที่มีประโยชน์น้อย เมื่อกินเข้าไปทำให้เกิดไขมันสะสม น้ำหนักเพิ่ม จากผลเสียของการกินฟาสต์ฟู้ดไม่อาจทำให้หลายคนเลิกได้ฉับพลัน หากต้องการกินอยู่ เรามีทริกดี ๆ สำหรับคนที่ยังต้องการกินอยู่ ต้องทำอย่างไรให้กินแล้วไม่อ้วนไปดูกันเลย

1.กินอย่างมีสติ

      เรื่องสติสามารถใช้ได้กับการกิน เพราะในบางคนเมื่อได้กินแล้วก็มักจะหยุดไม่ได้และลืมเป้าหมายของตัวเองว่ากำลังลดน้ำหนัก ซึ่งช่วงแรก ๆ ยังไม่ต้องงด สามารถกินได้แต่อย่างที่บอกต้องมีสติ 

2.กินให้พอเหมาะ

      อย่างที่บอกว่าไปว่าแรก ๆ ยังไม่ต้องงด กินในปริมาณที่เหมาะสมและค่อย ๆ ลดลงไปเรื่อย ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้อยากจนตะบะแตก ทำให้กินมากกว่าเดิมนั้นเอง

3.เพิ่มสารอาหารด้วยการกินผักหรือสลัดด้วย

     เมื่อรู้ว่าอาหารฟาสต์ฟู้ดไม่มีประโยชน์มากเท่าไหร่นัก ก็ควรเลือกกินเมนูอื่นอย่างสลัดควบคู่ไปด้วย เพิ่มสารอาหารให้แก่เมนูนี้ ทำให้อิ่มท้องได้แบบไม่ต้องสั่งเพิ่ม

4.ก่อนและหลังกินฟาสต์ฟู้ด ให้ดื่มน้ำเปล่า

     เพื่อลดการหิวแนะนำว่าให้ดื่มน้ำเปล่าสัก 1-2 แก้ว แต่หากดื่มหลังจากที่กินฟาสต์ฟู้ดเป็นการช่วยให้ย่อยง่ายมากขึ้น 

5.เคี้ยวนาน ๆ และให้ละเอียด

      หลักการกินก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีมากขึ้นและทาได้น้อยแต่อิ่มท้องไม่แพ้กัน ฉะนั้นหากใครชอบกินเร็ว ๆ ต้องลดสปีดลงบ้างแล้ว

6.ออกกำลังกาย สิ่งนี้สำคัญมากที่สุด เพราะจะทำให้ร่างกายเบิร์นไขมันออกไป คาร์ดิโอ หรือ HIIT มีประสิทธิภาพมากในเรื่องการเผาผลาญไขมันในร่างกาย

เคล็ดลับสั่งฟาสต์ฟู้ดมากินไม่ให้น้ำหนักพุ่ง

  • ไม่เพิ่มไขมันด้วยการกินกินมันฝรั่งทอด หากอยากจะกินจริง ๆ แนะนำให้สั่งไซซ์ s เท่านั้น จำนวนแคลอรี่อยู่ที่ 249 kcal หากสั่งมากกว่านั้นปริมาณเทียบเท่าได้กับแฮมเบอร์เกอร์ 1-2 ชิ้นเลย
  • เลี่ยงเครื่องดื่มน้ำอัดลมหรือน้ำหวานแคลอรี่สูงเกิน 100 kcal
  • ไม่สั่งไซซ์ใหญ่ เพราะมีแคลอรี่สูงที่สุดนั้นเอง ฉะนั้นหากไม่อยากอ้วนห้ามสั่งไซซ์ใหญ่ ๆ เด็ดขาด 

ใครที่กำลังลดน้ำหนัก หากอ่านข้อมูลในวันนี้เชื่อว่าจะต้องได้ความรู้และนำไปปรับใช้ได้อย่างแน่นอน แม้ว่าอาหารฟาสต์ฟู้ดจะมีแคลอรี่สูง แต่หากกินอย่างมีสติ เลือกกินในปริมาณที่เหมาะสมและควบคู่ไปกับผักจะช่วยทำคุมน้ำหนักได้ดีมากยิ่งขึ้น แต่หากต้องการให้หุ่นสวยเร็ววันจะต้องงดเลยเป็นการดีที่สุด