สิวอักเสบหรือที่เรียกว่า papules และ pustules อาจทำให้หงุดหงิดและส่งผลต่อความมั่นใจในตนเอง มีหลายทางเลือกในการรักษาและจัดการสิวอักเสบ รายละเอียดของแนวทางต่างๆ ดังนี้
1.การรักษาที่ไม่ต้องสั่งโดยแพทย์ (OTC)
เบนโซอิลเปอร์ออกไซด์: นี่เป็นส่วนผสมทั่วไปในผลิตภัณฑ์รักษาสิวหลายชนิด มันออกฤทธิ์โดยการฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิวและลดการอักเสบ เบนโซอิลเปอร์ออกไซด์อาจทำให้ผิวแห้งได้ ดังนั้นการใช้มอยเจอร์ไรเซอร์จึงเป็นสิ่งสำคัญ
รักษาสิวด้วยเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์
กรดซาลิไซลิก: ช่วยคลายรูขุมขนด้วยการขัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว โดยทั่วไปจะอ่อนโยนกว่าเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ แต่อาจไม่ได้ผลกับสิวรุนแรง
การรักษาสิวด้วยกรดซาลิไซลิก
ส่วนประกอบอื่นๆ: มองหาผลิตภัณฑ์ที่มีกรดอะเซไลอิก ซัลเฟอร์ หรือน้ำมันทีทรี ซึ่งอาจช่วยจัดการสิวระดับเล็กน้อยถึงปานกลางได้
ยาที่ต้องสั่งโดยแพทย์
หากการรักษาแบบ OTC ไม่ได้ผล แพทย์ผิวหนังสามารถสั่งยาที่ออกฤทธิ์แรงกว่าได้ เช่น
ยาปฏิชีวนะเฉพาะที่: ยาเหล่านี้มุ่งเป้าไปที่แบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว
เรตินอยด์: สิ่งเหล่านี้ได้มาจากวิตามินเอและช่วยขจัดสิ่งอุดตันในรูขุมขนและลดการอักเสบ อาจระคายเคืองต่อผิวหนังได้โดยเฉพาะในช่วงแรก
ยาผสม: ส่วนผสมเหล่านี้รวมเช่นยาปฏิชีวนะและเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์เพื่อแนวทางที่ตรงเป้าหมายมากขึ้น
เคล็ดลับอื่นๆ:
พัฒนากิจวัตรการดูแลผิวที่อ่อนโยน: ล้างหน้าวันละสองครั้งด้วยน้ำยาทำความสะอาดสูตรอ่อนโยนที่ปราศจากน้ำมันและน้ำอุ่น หลีกเลี่ยงการขัดถูแรงๆ และถูหน้า
ให้ความชุ่มชื้นอย่างสม่ำเสมอ: แม้ว่าผิวของคุณจะมีความมัน แต่การใช้มอยเจอร์ไรเซอร์สามารถช่วยป้องกันความแห้งและการระคายเคืองที่เกิดจากการรักษาสิวได้
อย่าแกะหรือบีบสิว: เพราะจะทำให้การอักเสบแย่ลงและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดแผลเป็น
ลดความเครียด: ความเครียดอาจทำให้สิวแย่ลงได้ ค้นหาวิธีจัดการกับความเครียดที่ดีต่อสุขภาพ เช่น การออกกำลังกาย เทคนิคการผ่อนคลาย หรือการใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติ
ไปพบแพทย์ผิวหนัง: หากคุณมีสิวรุนแรง สิวเรื้อรัง หรือสิวที่ไม่ดีขึ้นเมื่อรักษาด้วย OTC ให้ปรึกษาแพทย์ผิวหนัง พวกเขาสามารถพัฒนาแผนการรักษาเฉพาะบุคคลได้ตามความต้องการเฉพาะของคุณ
การรักษาสิวต้องใช้เวลาและความสม่ำเสมอ อดทนกับผิวของคุณและอย่าลังเลที่จะขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญหากจำเป็น