Tag: สิวอักเสบ

การรักษาผิวหน้าของคนเป็นสิวอักเสบ

สิวอักเสบหรือที่เรียกว่า papules และ pustules อาจทำให้หงุดหงิดและส่งผลต่อความมั่นใจในตนเอง มีหลายทางเลือกในการรักษาและจัดการสิวอักเสบ รายละเอียดของแนวทางต่างๆ ดังนี้

1.การรักษาที่ไม่ต้องสั่งโดยแพทย์ (OTC)

เบนโซอิลเปอร์ออกไซด์: นี่เป็นส่วนผสมทั่วไปในผลิตภัณฑ์รักษาสิวหลายชนิด มันออกฤทธิ์โดยการฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิวและลดการอักเสบ เบนโซอิลเปอร์ออกไซด์อาจทำให้ผิวแห้งได้ ดังนั้นการใช้มอยเจอร์ไรเซอร์จึงเป็นสิ่งสำคัญ

รักษาสิวด้วยเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์

กรดซาลิไซลิก: ช่วยคลายรูขุมขนด้วยการขัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว โดยทั่วไปจะอ่อนโยนกว่าเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ แต่อาจไม่ได้ผลกับสิวรุนแรง

การรักษาสิวด้วยกรดซาลิไซลิก

ส่วนประกอบอื่นๆ: มองหาผลิตภัณฑ์ที่มีกรดอะเซไลอิก ซัลเฟอร์ หรือน้ำมันทีทรี ซึ่งอาจช่วยจัดการสิวระดับเล็กน้อยถึงปานกลางได้

ยาที่ต้องสั่งโดยแพทย์

หากการรักษาแบบ OTC ไม่ได้ผล แพทย์ผิวหนังสามารถสั่งยาที่ออกฤทธิ์แรงกว่าได้ เช่น

ยาปฏิชีวนะเฉพาะที่: ยาเหล่านี้มุ่งเป้าไปที่แบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว

เรตินอยด์: สิ่งเหล่านี้ได้มาจากวิตามินเอและช่วยขจัดสิ่งอุดตันในรูขุมขนและลดการอักเสบ อาจระคายเคืองต่อผิวหนังได้โดยเฉพาะในช่วงแรก

ยาผสม: ส่วนผสมเหล่านี้รวมเช่นยาปฏิชีวนะและเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์เพื่อแนวทางที่ตรงเป้าหมายมากขึ้น

เคล็ดลับอื่นๆ:

พัฒนากิจวัตรการดูแลผิวที่อ่อนโยน: ล้างหน้าวันละสองครั้งด้วยน้ำยาทำความสะอาดสูตรอ่อนโยนที่ปราศจากน้ำมันและน้ำอุ่น หลีกเลี่ยงการขัดถูแรงๆ และถูหน้า

ให้ความชุ่มชื้นอย่างสม่ำเสมอ: แม้ว่าผิวของคุณจะมีความมัน แต่การใช้มอยเจอร์ไรเซอร์สามารถช่วยป้องกันความแห้งและการระคายเคืองที่เกิดจากการรักษาสิวได้

อย่าแกะหรือบีบสิว: เพราะจะทำให้การอักเสบแย่ลงและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดแผลเป็น

ลดความเครียด: ความเครียดอาจทำให้สิวแย่ลงได้ ค้นหาวิธีจัดการกับความเครียดที่ดีต่อสุขภาพ เช่น การออกกำลังกาย เทคนิคการผ่อนคลาย หรือการใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติ

ไปพบแพทย์ผิวหนัง: หากคุณมีสิวรุนแรง สิวเรื้อรัง หรือสิวที่ไม่ดีขึ้นเมื่อรักษาด้วย OTC ให้ปรึกษาแพทย์ผิวหนัง พวกเขาสามารถพัฒนาแผนการรักษาเฉพาะบุคคลได้ตามความต้องการเฉพาะของคุณ

การรักษาสิวต้องใช้เวลาและความสม่ำเสมอ อดทนกับผิวของคุณและอย่าลังเลที่จะขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญหากจำเป็น

บอกต่อเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับสิวสำหรับคนรุ่นใหม่ 2019

สิวเป็นโรคทางผิวหนังชนิดหนึ่ง ที่เป็นปัญหาสำคัญในช่วงวัยรุ่นและวัยทำงาน เนื่องจากปัจจัยด้านฮอร์โมนและพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน ที่เป็นความเสี่ยงของการเป็นสิวหลากหลายประเภทต่าง นอกจากจะมีผลกายภาพแล้ว ยังมีผลต่อความมั่นใจในการเข้าสังคมและการทำงานด้วย

ในบทความนี้ เราจึงได้รวบรวมเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับสิวสำหรับคนรุ่นใหม่ เพื่อให้ทุกท่านรับมือกับสิวได้อย่างถูกต้องยิ่งขึ้น

สิวมีอยู่หลายชนิด ได้แก่ สิวอุดตัน สิวอักเสบ หรือที่เรียกทั่วไปว่าสิวหัวช้าง สิวผดผื่น ที่เกิดจากการแพ้เครื่องสำอาง ฯลฯ พบมากบริเวณที่มีต่อมไขมันหนาแน่น เช่น ทีโซนของใบหน้า หน้าอก แผ่นหลัง ฯลฯ

ปัญหาสิวที่คนส่วนใหญ่มักกังวล เพราะเป็นจุดสังเกต คือ สิวอักเสบ ที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Propionibacterium acnes (P.acnes) ซึ่งอาศัยไขมันที่อุดตันอยู่ในรูขุมขนเป็นแหล่งอาหารในการเติบโต และหากมีการแกะเกาสิวด้วย ก็จะเกิดการติดเชื้อที่ผิวหนังจากแบคทีเรียชนิดอื่น ๆ เพิ่มเติมได้จนเป็นปัญหาลุกลามที่รักษายากขึ้น

พฤติกรรมที่ควรทำเพื่อลดปัญหาสิว ได้แก่

1. การทดสอบเครื่องสำอางที่จะใช้ โดยการทาที่บริเวณท้องแขนก่อนทาที่ใบหน้า เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่เกิดสิวผดจากการแพ้

2. การล้างหน้า ไม่ควรเกินวันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน หากมีการออกกำลังกาย ไม่ควรล้างด้วยโฟมล้างหน้าที่ทำให้รู้สึกผิวแห้งตึง เพราะเกิดจากการสูญเสียความชุ่มชื้นและเป็นสิวได้ง่าย

3. สำหรับผู้ที่จัดแต่งทรงผม ควรทำความสะอาดด้วยแชมพูสูตรเฉพาะที่สามารถทำความสะอาดเจล แว็กซ์ สเปรย์ ฯลฯ ได้อย่างหมดจดเพื่อให้ลดการสะสมสารเคมีและสิ่งปนเปื้อนที่อาจสัมผัสใบหน้าทำให้เกิดสิวได้

4. การรับประทานผักผลไม้สดเป็นประจำ โดยเฉพาะที่มีกากใยสูง เช่น สัปปะรด แก้วมังกร มะละกอ จะช่วยกระตุ้นระบบการขับถ่าย ลดอาการท้องผูกและสิวบางชนิดได้

5. การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 6-8 ชั่วโมง ต่อวัน เพื่อให้ระบบฮอร์โมนในร่างกายทำงานเป็นปกติจะช่วยลดปัญหาการเป็นสิวอักเสบได้

6. การงดอาหารที่มีไขมันสูง เช่น ช็อกโกแลต และอาหารหมักดอง เพราะมีการศึกษาว่าเกี่ยวข้องกับการเกิดสิวได้

พฤติกรรมที่ควรทำเพื่อลดปัญหาสิว ได้แก่

เมื่อมีปัญหาสิว ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อการเลือกใช้ยารักษาได้อย่างถูกต้องตามชนิดที่เป็น ซึ่งปัจจุบันมียาให้เลือกหลายรูปแบบ เช่น ยารับประทานยาทาผิวหนัง ฮอร์โมนเม็ดรับประทาน ฯลฯ รวมถึงการใช้วิธีของแพทย์ผิวหนังที่เป็นนวัตกรรมใหม่ อย่างการเลเซอร์ เพื่อกำจัดเซลล์เก่าให้หลุดลอกออกจากบริเวณรูขุมขนและลดการเป็นสิวอุดตัน รวมถึงการทรีตเมนต์ที่ช่วยลดการสร้างไขมันส่วนเกินได้