โรคภูมิแพ้เป็นปัญหาสุขภาพของคนไทยจำนวนไม่น้อย ทำให้มีอาการน้ำมูกไหล จาม คันจมูก คันตาและผิวหนัง หากมีอาการรุนแรงอาจถึงขั้นหอบหืดหรือหายใจไม่ออกได้

ในบทความนี้ เราจึงได้รวบรวมเทคนิคการดูแลสุขภาพเพื่อให้ห่างไกลโรคภูมิแพ้ได้ดียิ่งขึ้นเพื่อให้ทุกท่านนำไปเป็นแนวทางในการดูแลสุขภาพของตัวเองและคนในครอบครัว ดังนี้

1. เลือกรับประทานอาหารที่ผลิตจากเนื้อขาว เช่น เนื้อปลา ไก่ แทนเนื้อแดง เช่น วัว หมู เนื่องจากมีการวิจัย พบว่า การรับประทานเนื้อแดงเป็นประจำ รวมถึง นมจากวัว จะทำให้ร่างกายได้รับกรดไขมันโอเลอิกในสัดส่วนที่มากกว่าเนื้อขาวถึง 3 เท่า รวมถึงได้รับโปรตีนโมเลกุลใหญ่ที่อาจกระตุ้นให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้

2. รับประทานน้ำมันปลาเป็นประจำ จะช่วยปรับระบบของร่างกายให้หลั่งสารเคมีและฮอร์โมนที่สมดุลขึ้นและลดภาวะตอบสนองมากเกินไปของภูมิต้านทานที่ทำให้เป็นภูมิแพ้กำเริบได้

3. ทำความสะอาดเปลี่ยนไส้กรองเป็นประจำ ทั้งเครื่องปรับอากาศของห้องนอน ห้องทำงานและในรถยนต์ จะช่วยให้กรองฝุ่นละอองได้ดียิ่งขึ้น และลดปัญหาความอับชื้นสะสมและภาวะภูมิแพ้ที่เกิดจากเชื้อราหมักหมมได้

4. รับประทานผักสดและผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ฝรั่ง แอปเปิ้ล มะเขือเทศ ส้ม กีวี สตอเบอรี่ ฯลฯ จะช่วยให้อาการของโรคภูมิแพ้ทุเลาลงและยังช่วยป้องกันโรคหวัดที่มักเป็นในช่วงที่อากาศเปลี่ยนด้วย

5. รับประทานวิตามินซีแบบเม็ดเสริมวันละ 1000 mg เป็นประจำ จะช่วยลดความรุนแรงของการเป็นโรคภูมิแพ้และสามารถใช้เสริมกับการใช้ยารักษาโรคภูมิแพ้ที่แพทย์แผนปัจจุบันให้ได้อย่างปลอดภัย

ดูแลสุขภาพเพื่อให้ห่างไกลโรคภูมิแพ้

6. ออกกำลังกายเป็นประจำวันละ 30 นาทีช่วยให้ร่างกายปรับสมดุลระบบภูมิคุ้มกันให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ทำให้ลดความถี่และความรุนแรงของโรคภูมิแพ้ได้ เช่น การว่ายน้ำ วิ่ง โยคะ ปั่นจักรยาน ฯลฯ

7. ทำความสะอาดที่นอนเป็นประจำ และกำจัดไรฝุ่นที่แทรกอยู่ตามใยผ้าด้วยเครื่องดูดฝุ่นระบบสุญญากาศ การนำที่นอนไปตากแดดแรงประมาณ 1-2 ชั่วโมงทุกสัปดาห์ หรืออาจเปลี่ยนไปใช้ปลอกหมอนและผ้าปูที่นอน ที่ผลิตด้วยนวัตกรรมการทอใยผ้าแบบถี่พิเศษ ซึ่งจะป้องกันไรฝุ่นแทรกตัวไปอยู่อาศัยและแพร่พันธุ์ตามเนื้อผ้าได้

8. งดการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงในห้องนอน เพราะมีเห็บหมัดและการผลัดขนตามธรรมชาติที่เป็นปัจจัยกระตุ้นให้โรคภูมิแพ้กำเริบได้

จะเห็นได้ว่า การลดปัญหาโรคภูมิแพ้สามารถทำได้หลายวิธี นอกจาการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ยังต้องใส่ใจปัจจัยกระตุ้นหรือสิ่งแวดล้อมรอบตัวด้วย หวังว่าบทความนี้จะเป็นแนวทางให้ทุกท่านดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสมและเพื่อให้ห่างไกลจากโรคภูมิแพ้ได้อย่างยาวนาน